ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Week 4 โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (ภาษา C#)

Week 4 โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (ภาษา C)



"สวัสดีค่าาาา เพื่อนๆ กลับพบกันอีกแล้วใน Week 4 ซึ่งในสัปดาห์นี้เราจะมาพูดถึง โปรแกรมภาษาของคอมพิวเตอร์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือภาษา C# ไปดูกันเลยค่ะ"



ที่มาของรูป
     

 โปรแกรมภาษา C#

"ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเบื้องต้นของ C# กันก่อนดีกว่าาา"


 ทําความรู้ จักกับภาษา C# เบื้องต้น 

ชื่อภาษา C#

          ภาษา C# จะเขียนว่า C Sharp ก็ได้ (อ่านว่าซีชาร์พ) เครื่องหมาย # ในทางดนตรีหมายถึงครึ่งเสียง ส่วนคำว่า Sharp หมายถึงเฉียบคม มีไหวพริบ บริษัทไมโครซอฟท์ตั้งชื่อภาษานี้ว่า C# เพื่อจะสื่อให้เห็นว่านี่คือภาษาในตระกูลภาษา C เช่นเดียวกับภาษา C++ คือเป็นภาษาที่มีต้นกำเนิดจากภาษา C หากท่านสังเกตให้ดีจะเห็นว่าสัญลักษณ์ # จะมองให้เป็นเครื่องหมาย + สี่อันนำมาซ้อนกันก็ได้ แสดงเป็นนัยว่าภาษานี้ก้าวหน้ากว่าภาษา C++ ไปอีกระดับหนึ่ง (คือเป็นภาษา C++++) สัญลักษณ์ # นี้มีปรากฏในภาษาอื่นๆ ของ .NET ด้วย เช่นภาษา J#(เดิมคือภาษา J++) และภาษา A# (เหมือนภาษา Ada) อาจเป็นเพื่อเหตุผลการการค้

ภาษา C# คืออะไร

          ภาษา C# เป็นภาษาที่ใหม่มากๆ ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในปี 2000 และถูกอัพเดตเวอร์ชันอยู่เสมอ มันเป็นภาษาที่ได้รับอธิพลจากภาษาก่อนหน้าเช่นภาษา Delphi ภาษา C++ ภาษา Java และภาษา Eiffel ในตอนต้นภาษานี้ถูกออกแบบ และกำหนดลักษณะโดยบริษัทไมโครซอฟท์ ต่อมาได้ถูกรับรองจากหน่วยงาน ECMA (หน่วยงานกำหนดมาตรฐานสากลด้านสารสนเทศ) และ ISO แต่ปัจจุบันไมโครซอฟท์ยังพัฒนาภาษานี้อย่างต่อเนื่อง (ปัจจุบันเป็นเวอร์ชัน 3.0)

        ภาษา C# ถูกพัฒนาขึ้นโดยเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ .NET Framework เป็นการการนำข้อดีของภาษาต่างๆ (เช่นภาษา Delphi ภาษา C++) มาปรับปรุงเพื่อให้มีความเป็น OOP อย่างถึงที่สุด ขณะเดียวกันก็ลดความซับซ้อนในโครงสร้างของภาษาลง (เรียบง่ายกว่าภาษา C++) และมีเครื่องแต่งตัวน้อยลง (เมื่อเทียบกับ Java)
ชื่อภาษา C#   Microsoft Visual C# .net



ประวัติภาษา C#


ที่มาของรูป :  บริษัท Microsoft

        ภาษาซีชาร์ป (C# Programming Language) เป็นภาษาที่พัฒนามาจากจากบริษัท Microsoft ซึ่งมี Anders Hejlsberg เป็นหัวหน้าโครงการ ซึ่งตอนนั้นได้ทำการพัฒนาภาษาคอมพิวเตอร์สำหรับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เชิงวัตถุ 100% โดยได้นำเอาหลักการ ข้อดีของภาษา C, C++ และ JAVA มาเป็นต้นแบบในการพัฒนา ซึ่งทำงานอยู่บน .NET Framework 
        โดยปัจจุบันภาษาC#เป็นภาษามาตรฐานรองรับโดย ECMA และ ISO   ซึ่งในปัจจุบันได้พัฒนาและปรับรูปแบบของ ภาษา C# อยู่ตลอดเวลาโดยทาง Microsoft ได้นำภาษา C# ไปอยู่ในชุดพัฒนา software อย่าง visual studio ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น     ไมโครซอฟท์ส่งมาตรฐานภาษาC#ให้กับ ECMA และได้รับการยอมรับเป็นมาตรฐาน ECMA ในเดือนธันวาคม ค.ศ.2001 ในชื่อว่า ECMA-334 C# Language Specification ใน ค.ศ.2003 ภาษาC#ได้รับการยอมรับเป็นมาตรฐาน ISO (ISO/IEC 23270) มาตราฐาน ISO/IEC 23270:2003 ระบุรูปแบบ และกำหนดการแปล (ตีความ) โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาC# โดยตัวมาตรฐานได้ระบุ:
* รูปแบบการนำเสนอ
* ไวยากรณ์
* กฎการตีความสำหรับแปลโปรแกรมภาษาC#
* ข้อห้าม และข้อจำกัด ของเครื่องมือที่สร้างตามข้อกำหนดของC#
ISO/IEC 23270:2003 ไม่ได้ระบุ
* กลไกในการแปลงโปรแกรมภาษา C# เพื่อใช้ในระบบประมวลผลข้อมูล
* กลไกในการเรียกให้โปรแกรมภาษา C# ทำงาน เพื่อใช้ในระบบประมวลผลข้อมูล
* กลไกในการแปลงข้อมูลเข้า เพื่อใช้กับโปรแกรมภาษา C#
* กลไกในการแปลงข้อมูลออก หลังจากถูกประมวลผลโดยโปรแกรมภาษา C#

นอกจากนี้ตัวมาตรฐานไม่ได้กล่าวถึง โครงสร้างข้อมูล(Data Structure) และตัว Library กลางของ .NET Framework ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C#



รูปแสดงประวัติการพัฒนาภาษา C#




ผู้สร้างภาษา C#
C#
Anders Hejlsberg บิดาของภาษา C#


          ผู้สร้างภาษา C# คือบริษัทไมโครซอฟท์ แต่บิดาของภาษา C# คือ Anders Hejlsberg (แอนเดรส ฮาเยสเบิร์ก) ไมโครซอฟท์ต้องการให้ภาษา C# เป็น “อะไรที่จะอยู่ไปอีกนาน” เหมือนบริษัทรถยนต์โฟลค์ที่จ้าง Ferdinand Porsche (เฟอร์ดินันด์ พอร์ช) นักออกแบบรถยนต์มือดีมาออกแบบรถโฟลคเต่า (เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง) ทำให้มันกลายเป็นรถยนต์คลาสสิกมาจนถึงปัจจุบัน ในทำนองเดียวกันเมื่อต้องการภาษาที่ต้องการให้กลายเป็นภาษา “คลาสสิก” บริษัทไมโครซอฟท์ตัดสินใจมอบหมายให้ Hejlsberg บรมครูนักออกแบบภาษา ผู้เคยสร้างภาษาที่กลายเป็นตำนานมาแล้วเช่น Turbo Pascal และผู้นำในทีมสร้างภาษา Delphi

    " ใครๆ ก็สร้างภาษาใหม่ได้ไม่ยากเลย  เพียงแต่ภาษาที่สร้างออกมานั้นดีจริงๆหรือเปล่านั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง  สำหรับภาษา C# Hejlsberg ไม่เพียงสร้างภาษาที่ใช้งานได้ดีเท่านั้น เขายังเน้นเรื่อง “ความมีรสนิยม” และ “ความสง่างาม” เพราะต้องการให้โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมภาษา C# ได้อย่างมีความสุข" 

   จุดเด่นของC#

The Legion of the Bouncy Castle C# Port
ที่มา http://www.bouncycastle.org/images/csharp_logo.gif

เป็นรูปแบบของภาษาที่ทำงานเป็นลำดับ(Sequential)และต้องผ่านการแปลงไฟล์ให้อยู่ในรูปแบบ
พร้อมใช้งานหรือ EXE file (ที่เรียกว่าการ Compile) เช่นเดียวกับภาษา C โดย C# เป็นภาษาที่ถูกผลักดัน
โดยบริษัทไมโครซอฟท์ให้ออกมายิ่งใหญ่โดยมีจุดเด่นดังนี้
- เขียนคล่อง C#มีเครื่องมือในการช่วยเขียนอย่าง Visual Studio ที่มีฟีเจอร์ในการไฮไลท์โค้ด 
และส่วนช่วยในการเขียนโปรแกรมที่สะดวกมาก
- เขียนง่ายจุดเด่นของตัวแปรและอ๊อบเจ็กต์บน C# เด่นชัดในเรื่องของการจัดการ
คุณสมบัติ (Properties) และการตั้งค่าเริ่มต้นที่ช่วยให้สามารถพัฒนาระบบได้สะดวกรวดเร็วขึ้น 
- อ่านง่าย การจัดระเบียบโดยตัว Visual Studio เป็นส่วนที่ผมชอบที่สุดเลยก็ว่าได้
คุณเขียนโค้ดไปซักพักหนึ่ง จะเริ่มรู้สึกลายตากับย่อหน้าที่งงๆ แต่ Visual Studio
โดยปกติเมื่อจะจัดการกับย่อหน้าทั้งหมดเหล่านั้นให้อยู่ในระเบียบสะอาดตาที่สุดเลยทีเดียว
- เป็นอ็อบเจ็กต์ เนื่องจากภาษา C# นั้นมีแม่แบบมาจากภาษา Java 
ซึ่งจุดเด่นคือการทำทุกสิ่งให้เป็นวัตถุ (Object) ทำให้สามารถเขียนและพัฒนาได้ง่าย
- ประสิทธิภาพสูง C# เป็นภาษาที่พัฒนาขึ้นมาภายใต้ .NET Framework
ซึ่งสามารถดึงเอาความสามารถของเทคโนโลยีบน .NET ออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- สามารถทำงานระดับลึก ภาษา C# สามารถทำงานกับหน่วยความจำรวมถึงระบบคอมพิวเตอร์ใน
ระดับลึก โดยผ่าน พอยเตอร์ (Pointer) หรือทำงานกับโปรโตคอล TCP/IPที่ต่ำกว่าระดับ4ได้
- เน้นที่ XML C# ออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับXMLได้อย่างราบรื่นที่สุดด้วยความช่วยเหลือของ .NET Framework
- คุณสมบัติGeneric type ช่วยยืดหยุ่นในการประกาศตัวแปล
- เทคโนโลยี LINQ ช่วยในการทำงานกับฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ



ที่มาของรูป 

แต่จุดเด่นหลักๆ ของภาษา C# ก็มีดังนี้
1.Component oriented – เป็นภาษาที่เน้นชิ้นส่วนโดยถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีทำให้สามารถนำมาใช้ต่อกันเป็นอะไรก็ได้
2.สิ่งต่าง ๆ ใน C# เป็นออบเจ็กต์ทั้งหมด
3.เป็นภาษา ที่ทนทาน (robust) – ทนต่อความผิดพลาด ไม่ทำให้ระบบแฮงก์หรือระบบทำงานช้า เพราะ C# มีข้อดีคือ garbage collection , exception , type-safety และ versioning
4.ภาษา C# จัดเตรียมกลไกไว้หลายอย่างที่ช่วยให้ผู้เขียนโปรแกรมสามารถนำโค้ดที่เขียนไว้ในโปรเจค หนึ่งไปใช้กับอีกโปรเจคหนึ่งได้ง่าย นอกจากนั้นภาษา C# ยังสามารถเรียกใช้คลาสหลายพันคลาสใน .NET Framework ได้โดยตรง ทำให้ลดเวลาการพัฒนาซอฟท์แวร์ได้มากขึ้น


"เอาล่ะวันนี้เราก็ขอจบเนื้อหาประมาณนี้นะ   ถ้าใครมีข้อเสนอแนะหรือแนะนำก็สามารถมา comments กันได้นะค่าาาา บ๊ายบายยยย"


เครดิต :

http://tonkung.ueuo.com/Creator.html
http://nantayut.cs.ubru.ac.th/file_download/TechnicProgaming/01chapter.pdf
https://thaioop.wordpress.com/2006/11/22/%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99-11-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2-c-%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99/
https://nipaponkumprom.wordpress.com/2015/02/01/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2-c-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

week2 เรื่องราวที่นักเรียนสนใจ(1) ดาบสองมือ

                          " สวัสดีค่าาาาา  เจอกันอีกแล้วน้าา วันนี้อยากจะมาเสนอสิ่งที่ตัวเองชอบล้วนๆเลย ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง " กีฬาดาบสองมือ ดาบไทย ประวัติความเป็นมาของวิชาดาบสองมือ   ดาบสองมือ    เป็นกีฬาประเภทการต่อสู้ป้องกันตัวดั้งเดิมของไทยชนิดหนึ่ง    ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นกระบี่กระบอง    ได้ดัดแปลงมาจากลักษณะและรูปแบบการรบในสมัยโบราณ    การรบในสมัยโบราณเป็นการรบที่ใกล้ตัวในระยะประชั้นชิด    อาวุธที่ใช้นอกจากดาบแล้วยังมี    กระบี่    โล่    ดั้ง    ง้าว    ทวน    พลอง    เป็นต้น   กีฬาการเล่นดาบสองมือเป็นการรบจำลองนั่นเอง    เป็นการเอาหวายมาทำเป็นดาบแล้วจัดมาตีกันเล่นหรือแข่งขันกันเป็นคู่ๆ    ดุจจะสู้กันในสนามรบกันตัวต่อตัว   ( นาค   เทพหัสดิน    ณ    อยุธยา    ๒๕๑๓ :   ๖) ในสมัยก่อนที่จะตั้งกรุงสุโขทัยเป็นเมืองหลวง    ได้มีการพบซากและร่องรอยของเมืองโบราณอยู่ทั่วไปในแผ่นดินไทย    เช่น    ภาคกลางปรากฏมีร่องรอยของวัฒนธรรมแบบทวาราวดี    ภาคใต้มีปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมแบบศรีวิชัย    และภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนล่างก็มีร่องรอยของวัฒนธ

Week1 เทคโนโลยีกับชีวิตประจำวันของนักเรียน

           "สวัสดีค่าาาาา  เพื่อนๆที่น่ารักทุกคนหรือท่านผู้ที่แวะผ่านเข้ามาเยี่ยมชม  ก่อนอื่นเราขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการก่อนนะว่า เราชื่อว่า จูน เพิ่งเริ่มทำการสร้างบล็อกเป็นครั้งแรก  ฝากเพื่อนๆมาติดตามหรือลงความคิดเห็นได้ไว้ได้เลย ว่าคิดอย่างไรกับบล็อกนี้กันบ้าง  "              Week1 เทคโนโลยีกับชีวิตประจำวันของนักเรียน ที่มา คลิกเลย ในโลกของยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ชีวิตของมนุษย์ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีในการใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ  จึงไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่าเทคโนโลยีนั้นมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์  ซึ่งมนุษย์ทุกคนล้วนมีการใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตในหลายๆด้าน  ตั้งแต่การตื่นนอนจนถึงการเข้านอน ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับมนุษย์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง ที่ชีวิตประจำวันมีแต่ความเร่งรีบต้องแข่งขันกับเวลา การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานแล้วยังช่วยย่นระยะเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้สั้นล